วันเสาร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

แปลงโฉมตู้เหล็กเก่า ๆ กลายเป็นล็อกเกอร์ใหม่สุดแจ่ม

DIY ของแต่งบ้าน

          ตู้เหล็กใส่เอกสารเก่า ๆ มองมุมไหนก็ไม่น่าใช้ พอจับมาแปลงโฉมใหม่ด้วยสีสันสดใส ก็กลับมาน่าใช้สุด ๆ และยังเป็นการรีไซเคิลที่ช่วยลดขยะได้ด้วยนะ 

          ตู้เหล็กเก็บของเก่า ๆ ถ้ายังไม่อยากทิ้ง เพราะยังใช้งานได้อยู่ แค่สภาพภายนอกดูไม่น่าใช้ อย่าเพิ่งโละขายทิ้ง ไม่อย่างนั้นอาจต้องเสียใจ เพราะ my home มีไอเดียแปลงโฉมตู้เหล็กเก่าสุดคลาสสิก ให้กลายเป็นตู้เก็บของใบใหม่น่าใช้สุด ๆ แถมยังดูสดใส สภาพภายนอกเหมือนเพิ่งซื้อมาใหม่เลยล่ะ

Upcycled Locker แปลงโฉมตู้เหล็กเก่าสุดคลาสสิก (my handy/my home)

DIY ของแต่งบ้าน

Story : อรพรรณ วัจนะเสถียรกุล 
Photo : อนุพงษ์ ฉายสุขเกษม 
Style : วรวัฒน์ ตุลยทิพย์

          ตู้เหล็กเก่าสุดคลาสสิกที่ผ่านการใช้งานมายาวนาน เดิมทีก็แข็งแรงทนทานใช้งานได้ตามปกติ ผิดตรงที่วันนี้สีสันไม่สดใส รูปลักษณ์ไม่อินเทรนด์ จะทิ้งก็เสียดายจะเก็บไว้ก็ไม่เข้ากับบ้าน วันนี้ my home มีไอเดียการทำสีตู้เหล็กใหม่มานำเสนอ เพิ่มเติมของตกแต่งอีกนิด รับรองตู้เหล็กใหม่สวยคลาสสิกเข้ายุคร่วมสมัยแน่นอน

DIY ของแต่งบ้าน

อุปกรณ์

          - เหล็ก 
          - ขาไม้  ยาว 15 ซม. 4 แท่ง 
          - กระดาษทราย  เบอร์ 800-1,200 
          - ประแจ
          - ไขควง 
          - คีมล็อกก้ามปู 
          - สกรูเกลียวเหล็กหัวฝัง
          - สีน้ำมันเคลือบเงา 
          - สีสเปรย์ 
          - ทินเนอร์ 
          - กาพ่นสี 
          - ปั๊มลม

DIY ของแต่งบ้าน
Before

ขั้นตอนการทำ

DIY ของแต่งบ้าน

          1. ถอดลิ้นชักตู้เหล็ก

DIY ของแต่งบ้าน

          2. ถอดล้อ

DIY ของแต่งบ้าน

          3. ถอดมือจับ

DIY ของแต่งบ้าน

          4. ขัดสีเก่าออกด้วยกระดาษทรายเบอร์ละเอียด

DIY ของแต่งบ้าน

          5. ผสมสีน้ำมันเคลือบเงากับทินเนอร์ เทลงในกาพ่นสี

DIY ของแต่งบ้าน

          6. พ่นสีตู้เหล็กและฝาลิ้นชักตู้ให้ทั่ว ควรพ่นสีไปทางเดียวกัน ตามแนวยาวจากซ้ายไปขวาและบนลงล่าง 

DIY ของแต่งบ้าน

          7. พ่นสีมือจับ

DIY ของแต่งบ้าน

          8. กำหนดจุดติดขาไม้ เจาะรูสำหรับยึดสกรูเกลียวเหล็ก

DIY ของแต่งบ้าน

          9. ยึดขาไม้ด้วยสกรูเกลียวเหล็กหัวฝัง

DIY ของแต่งบ้าน

          10. ประกอบมือจับที่ฝาลิ้นชัก

DIY ของแต่งบ้าน

          11. เพิ่มฟังก์ชั่นติดกรอบป้ายชื่อ

DIY ของแต่งบ้าน

          12. ประกอบลิ้นชัก 

ideas

DIY ของแต่งบ้าน
After

DIY ของแต่งบ้าน

DIY ของแต่งบ้าน

DIY ของแต่งบ้าน

          ตู้เหล็กใหม่สีสดใสพร้อมใช้งาน ใส่แผ่นพลาสติกแบ่งพื้นที่จัดระเบียบในลิ้นชัก พื้นที่ด้านบนตู้กว้างขวาง ใช้เป็น Coffee Table ติดโน้ตเตือนความจำด้วยแม็กเน็ตเก๋ ๆ และใส่ป้ายชื่อบอกรายการสิ่งของด้านในตู้
DIY ของแต่งบ้าน
นิตยสาร my home ฉบับที่ 072 เดือนพฤษภาคม 2559

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก 

นิตยสาร my home ฉบับที่ 072 เดือนพฤษภาคม 2559 
ที่มา:http://home.kapook.com/

ตู้ยาสามัญ อีกหนึ่งความสำคัญภายในบ้าน

ตู้ยาสามัญ อีกหนึ่งความสำคัญภายในบ้าน
เคยมั้ย เวลาปวดหัว ปวดท้อง โดนมีดบาด โดนน้ำร้อนลวก โดนแมลงสัตว์กัดต่อย และอีกสารพันปัญหาการเจ็บป่วย แต่ไม่รู้จะใช้ยาอะไรมาบรรเทาอาการเหล่านี้ เพราะยาที่มีในกล่องก็เต็มไปหมด ใช้รักษาอาการอะไรบ้างก็ไม่รู้ บางอย่างก็มี บางอย่างก็ไม่มี ทีนี้เรามาดูกันดีกว่าว่ายาสามัญประจำบ้านที่ควรมีเก็บไว้มีอะไรบ้าง
ตู้ยาประจำบ้าน (3)
ภาพ via student.chula.ac.th
  • กลุ่มยาบรรเทาปวด ลดไข้ ได้แก่ แอสไพรินและพาราเซตามอล
  • กลุ่มยาแก้แพ้ ลดน้ำมูก ได้แก่ คลอร์เฟนิรามีน
  • กลุ่มยาแก้ไอ ขับเสมหะ ได้แก่ ยาแก้ไอน้ำดำ
  • กลุ่มยาดมหรือยาทาแก้วิงเวียน หน้ามืด คัดจมูก ได้แก่ ยาดมแก้วิงเวียนทั้งหลายและยาทาระเหย
  • กลุ่มยาแก้เมารถ เมาเรือ ได้แก่ ไดเมนไฮดริเนท
  • กลุ่มยารักษาโรคปากและลำคอ ได้แก่ ยากวาดคอ ยาแก้ปวดฟันทั่วไป และยารักษาลิ้นเป็นฝ้า เยนเชี่ยนไวโอเลต
ภาพ via https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEitW_w7nVLGSieZbwZiCKMqgA8sgkzf_iAWmPk6zxO_1VnYhd1KBo33rJiXTGGr7xKLln_bW8U99xRJyFnZG2Qp5uHZLE-EDOGJBhMiLGEGxVXgYPyQRPHm9mBddpE4nEVTSoVFGFYM9krT/s1600/11.jpg
ภาพ via 2.bp.blogspot.com
  • กลุ่มยาแก้ปวดท้อง ได้แก่ ยาธาตุน้ำแดง (แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ) แมกนีเซีย (ช่วยลดกรดในกระเพาะอาหาร) ผงน้ำตาลเกลือแร่ (แก้ท้องเสีย)
  • กลุ่มยาระบาย ได้แก่ ยาระบายแมกนีเซียและยาระบายมะขามแขก
  • กลุ่มยาถ่ายพยาธิลำไส้ ได้แก่ เบนดาโซล
  • กลุ่มยาบรรเทากล้ามเนื้อและแมลงสัตว์กัดต่อย ได้แก่ ยาหม่องชนิดขี้ผึ้ง
  • กลุ่มยาสำหรับโรคตา ได้แก่ ยาหยอดตาซัลฟาเซตาไมด์
  • กลุ่มยาสำหรับโรคผิวหนัง ได้แก่ คาลาไมน์ (รักษาผดผื่นคันและแมลงสัตว์กัดต่อย) ขี้ผงกำมะพัน (รักษาหิด) โซเดียมไทโอซัลเฟรต (รักษาเกลื้อน) ยารักษาแผลน้ำร้อนลวกฟีนอล
  • กลุ่มยาใส่แผล ได้แก่ ยาล้างแผล ทิงเจอร์ไอโอดีน (ยาใส่แผล) น้ำเกลือล้างแผล
  • กลุ่มยาบำรุงร่างกาย ได้แก่ ยาเม็ดวิตามินบีรวม น้ำมันตับปลาชนิดแคปซูลและน้ำ ยาเม็ดบำรุงโลหิต เฟอร์รัสซัลเฟรต
ที่มา:http://www.ddproperty.com

วันศุกร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

5 วิธีลดขยะในบ้านอย่างมีประสิทธิภาพ

5 วิธีลดขยะในบ้านอย่างมีประสิทธิภาพ
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าปัจจุบันนี้ชีวิตประจำวันของเราเต็มไปด้วยขยะอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นขยะภายในบ้าน ขยะตามท้องถนนที่เกิดจากความมักง่ายของคนหลายๆ คน ซึ่งถ้าเราปล่อยให้เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ รับรองว่าเพียงไม่นานประเทศไทยจะกลายเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยขยะจนเราอยู่กันไม่ได้แน่ๆ
แล้วเราจะทำยังไงกันดีล่ะ ?? เอาเป็นว่ามาเริ่มที่ตัวเรา ที่บ้านของเรากันก่อนดีกว่าเนอะ ทีนี้ก็มาดูแล้วนำไปใช้กันเลยว่า 5 วิธีลดขยะภายในบ้านมีอะไรบ้าง
thaihealth_c_bcfgprt13479
1.แยกประเภทขยะ เพราะขยะจากการอุปโภคบริโภคในชีวิตประจำวันของเรามีเยอะแยะมากมายเหลือเกิน ซึ่งบางประเภทก็สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ บางประเภทก็ไม่ได้ ฉะนั้นเราจึงควรแยกประเภทขยะให้เรียบร้อยก่อนทิ้งทุกครั้ง

2.รู้จักรักษาและซ่อมแซมของเก่า ของใช้ทุกอย่างในบ้านถ้าเรารู้จักดูแลรักษาให้ดี และใช้อย่างทะนุถนอมก็สามารถยืดอายุการใช้ของมันออกไปได้ และจะดียิ่งขึ้นถ้าสามารถนำสิ่งที่เสียแล้วมาซ่อมแซมให้ใช้ได้ใหม่อีกครั้ง
3.ลด ละ เลิก ผลิตภัณฑ์ใช้แล้วทิ้ง ผลิตภัณฑ์ใช้แล้วทิ้งบางอย่างอาจจะให้ความรู้สึกปลอดภัย แต่ว่าก็ตามมาด้วยจำนวนขยะที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน ทางที่ดีเราควรจะใช้ผลิตภัณฑ์ที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้อีกครั้ง เพราะนอกจากจะเป็นการลดขยะแล้วยังเป็นการช่วยโลกอีกทางหนึ่งด้วย
PETbowl
4.เปลี่ยนขยะเป็นประโยชน์ด้วยการรีไซเคิล หลายครั้งที่ขยะไม่จำเป็นต้องเป็นขยะเสมอไป เพราะขยะหลายๆ อย่างก็สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ เช่น ถุงพลาสติกที่ได้จากการซื้อของก็สามารถนำไปใส่ขยะได้
5.ทิ้งขยะทุกวัน นอกเหนือจากทั้ง 4 ข้อข้างต้นแล้ว สิ่งที่ห้ามลืมเด็ดขาดคือ “การทิ้งขยะทุกวัน” เพราะนอกจากจะป้องกันกลิ่นเหม็นและเชื้อโรคในบ้านแล้ว ยังเป็นการป้องกันสัตว์ไม่พึงประสงค์อย่างหนูหรือแมลงสาบที่จะเข้ามาก่อนกวนอีกด้วย
ที่มา:http://www.ddproperty.com

เทคนิคในการกำจัดคราบบนผนัง

เทคนิคในการกำจัดคราบบนผนัง
ปัญหาน่าปวดหัวประการหนึ่งสำหรับบรรดาคนรักบ้านทั้งหลายคือการที่มีคราบและสิ่งสกปรกเกาะติดอยู่บนผนัง ไม่ว่าจะด้วยความตั้งใจหรือไม่ก็ตาม แต่คราบสกปรกเหล่านั้นทำให้บ้านดูไม่สวยงามน่าอยู่ วันนี้ขอเอาใจเหล่าพ่อบ้าน แม่เรือนทั้งหลายด้วยการนำเทคนิคในการกำจัดคราบที่ติดอยู่บนผนังอย่างมีชั้นเชิงมาฝาก
คราบดินโคลนและคราบเครื่องดื่ม
ใช้แปรงขนแข็งขัดบริเวณที่มีคราบดินโคลนด้วยน้ำอุ่นผสมน้ำยาทำความสะอาดพื้นและล้างออกด้วยน้ำสะอาด ในกรณีที่คราบยังคงติดฝังลึก ให้ราดน้ำจนเปียกและใช้น้ำยาฟอกขาวราดให้ทั่วบริเวณ ขัดให้สะอาดแล้วจึงล้างออกด้วยน้ำ
คราบหมากฝรั่ง
เริ่มต้นจากการทำหมากฝรั่งให้แข็งโดยการเอาน้ำแข็งประคบและขูดออกมาให้ได้มากที่สุด จากนั้นนำน้ำยาบ้วนปาก หรือวัสดุที่มีคุณสมบัติดูดซับได้ดี เช่น เมทิลแอลกอฮอล์ มาผสมจนมีลักษณะอิ่มตัว พอกไว้ตรงบริเวณคราบ ทิ้งไว้ให้แห้งจนคราบเกิดการเปราะ แล้วจึงใช้ขนแปรงแข็งๆ ขัดคราบส่วนที่เหลือ และจบด้วยการทำความสะอาดบริเวณทั้งหมดตามปกติอีกครั้ง
คราบเกลือ
ขูดคราบออกด้วยแปรงที่มีขนแข็ง ถ้าคราบเกลือยังคงติดแน่น ให้ลองใช้กรดไฮโดรคลอริก 1 ส่วนต่อน้ำ 20 ส่วน โดยเริ่มจากการฉีดน้ำที่พื้นผิวคอนกรีตให้ชุ่ม ปล่อยให้หมาด และราดด้วยกรดเจือจางที่ผสมไว้ ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที ตามด้วยการล้างด้วยน้ำสะอาดอีกหลายๆ รอบ
ข้อควรระวังในการใช้กรด
• ในการผสมสารเคมี ควรเจือจางกรดด้วยการเติมกรดลงในน้ำที่เตรียมไว้ ห้ามเติมน้ำลงไปเจือจางกรด
• กรดสามารถทำลายพื้นผิวของคอนกรีตได้ ในการใช้จึงจะต้องเจือจางก่อนและล้างทำความสะอาดทันทีหลังจากการใช้งาน

คราบเชื้อรา 
เริ่มต้นจากใช้น้ำยาฟอกขาว ราดให้ทั่วบริเวณที่เป็นคราบ ตามด้วยการขัดให้สะอาด แล้วล้างออกด้วยน้ำหลายๆ รอบ ทิ้งไว้ให้แห้งแล้วค่อยขัดคราบเชื้อราที่เหลืออยู่
คราบน้ำมันและคราบจาระบี
คราบน้ำมันและจาระบี ถือเป็นคราบที่กำจัดยากที่สุด เพราะสามารถซึมและฝังตัวในเนื้อคอนกรีตได้ เมื่อน้ำมันหรือจาระบีหกควรหยุดการแพร่กระจายเป็นวงกว้างโดยการนำทราย, ดิน หรือขี้เลื่อยล้อมบริเวณไว้ จากนั้นใช้ผ้าหรือวัสดุที่สามารถดูดซับได้ดี มาซับออกให้หมด แล้วจึงเข้าสู่ปฏิบัติการกำจัดคราบให้สะอาด
เริ่มจากการใช้ปูนขาว 1 ส่วน ผสมกับน้ำมันสน 2 ส่วน พอกทั่วบริเวณคราบให้หนาและพอกให้เกินบริเวณคราบไปสัก 5-10 ซม. ตามด้วยการคลุมพลาสติกทิ้งเอาไว้หนึ่งวัน แล้วขูดออก สามารถทำซ้ำกระบวนการนี้จนกว่าจะสามารถกำจัดคราบได้ตามพอใจ และทำความสะอาดด้วยผงซักฟอกในขั้นตอนสุดท้าย
คราบรอยเปื้อนไม้
ขัดบริเวณคราบรอยเปื้อนด้วยน้ำยาฟอกขาว เริ่มต้นด้วยการใช้ผ้าจุ่มน้ำยาฟอกขาวให้ชุ่มแล้วนำมาโปะเอาไว้สักครู่ โดยทำซ้ำจนกว่าจะได้ผลที่พอใจ ต่อด้วยกระบวนการทำความสะอาดด้วยน้ำยาทำความสะอาดพื้นและล้างออกด้วยน้ำสะอาดในขั้นตอนสุดท้าย
เนื่องจากสารเคมีต่างๆ ที่นำมาใช้ทำความสะอาดนี้ หลายชนิดมีความอันตรายหากนำมาใช้ด้วยความประมาทและรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ดังนั้น เราควรใช้ความระมัดระวัง โดยมีข้อปฏิบัติดังนี้
• อ่านขั้นตอนการเตรียมสารละลายที่แนะนำมาจากผู้ผลิตอย่างละเอียดและทำตามอย่างเคร่งครัด
• เตรียมการปฐมพยาบาลเบื้องต้นหากเกิดเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้น โดยเตรียมข้อมูลการปฐมพยาบาลและอุปกรณ์การปฐมพยาบาลเบื้องต้น
• สวมเครื่องแต่งกายและอุปกรณ์ป้องกันที่เหมาะสม
• ปฎิบัติงาน อาทิ การเตรียมสารเคมีต่างๆ ในที่ที่มีอากาศถ่ายเท

เรื่องข้างต้นเขียนโดย สุจิตรา วานิชานันท์ Junior Online Marketing Executive ประจำเว็บไซต์ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ sujitra@ddpropety.com
ที่มา:http://www.ddproperty.com

วิธีกำจัดเชื้อราในตู้เสื้อผ้าง่ายนิดเดียว

วิธีกำจัดเชื้อราในตู้เสื้อผ้าง่ายนิดเดียว
การเก็บของ-เสื้อผ้าไว้ในตู้นานๆ นอกจากฝุ่นละอองและกลิ่นอับๆ ที่ไม่พึงประสงค์แล้ว อีกหนึ่งปัญหาสำหรับประเทศที่อากาศร้อนชื้นอย่างบ้านเราคงหนีไม่พ้นเรื่องของ “เชื้อรา” วันนี้ DDproperty.com มีทางออกสำหรับปัญหาดังกล่าวมาฝาก
น้ำยาล้างจานสารพัดประโยชน์
ใช้น้ำเปล่าเล็กน้อยผสมกับน้ำยาล้างจานให้ได้สารละลายที่มีลักษณะเข้มข้น แล้วใช้แปรงจุ่มลงในสารละลายให้ชุ่มและนำไปขัดในบริเวณที่มีเชื้อราออก สุดท้ายใช้ผ้าเช็ดทำความสะอาดอีกครั้งหนึ่ง วิธีนี้ถือเป็นเทคนิคยอดฮิตพิชิตราอยู่หมัด
วิธีเด็ดขาดกับน้ำส้มสายชู
ผสมน้ำเปล่าเข้ากับน้ำส้มสายชู นำสารละลายนั้นใส่ Foggy ฉีดให้ทั่วบริเวณที่มีราขึ้น ปล่อยทิ้งไว้สักพัก ถ้าเชื้อรายังคงไม่หมดไปให้ทำซ้ำๆ สักประมาณสามครั้ง เชื้อราก็จะไม่เข้ามาวุ่นวายอีกต่อไป
จัดการที่ต้นตอไม่ให้เชื้อรากลับมาอีก
เนื่องจากความชื้นเป็นสาเหตุทำให้เกิดเชื้อรา ดังนั้นเราควรลดความชื้นให้บ้านและห้องต่างๆ โดยทำให้พื้นที่เหล่านั้นเปิดโล่ง มีลมโกรก และปล่อยให้แดดส่องเข้ามาบ้าง
เรื่องข้างต้นเขียนโดย สุจิตรา วานิชานันท์ Junior Online Marketing Executive ประจำเว็บไซต์ DDproperty.com หากมีคำถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ sujitra@ddpropety.com

ที่มา:http://www.ddproperty.com

วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

5 วิธีช่วยลดค่าไฟ เคล็ดลับน่ารู้

5 วิธีช่วยลดค่าไฟ เคล็ดลับน่ารู้
ในฐานะที่เราทุกคนเป็นผู้ใช้พลังงานในรูปแบบต่างๆ ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของทุกคน ทุกฝ่ายที่จะต้องร่วมมือกันในการประหยัดพลังงาน ไม่เฉพาะการประหยัดจากหน่วยงานหรือองค์กร แต่ในระดับบุคคล หรือครัวเรือนแม้ว่าจะลดการใช้พลังงานได้ไม่มาก แต่เมื่อรวมกันเข้าหลายคน หลายครัวเรือนก็ให้ผลที่ยิ่งใหญ่ได้ ครั้งนี้เรามีเคล็ดวิธีลดค่าไฟที่ทำได้จริง และทำได้ทันที 5 อย่างมาแนะนำกัน
เปลี่ยนมาใช้หลอดตะเกียบ
เปลี่ยนมาใช้หลอดตะเกียบ
1. เปลี่ยนมาใช้หลอดตะเกียบ
การเปลี่ยนหลอดไฟฟ้าจากหลอดอ้วน มาเป็นหลอดไฟฟ้าแบบหลอดผอม หรือเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟฟ้าแบบตะเกียบแทนหลอดไส้ ไม่ใช้แค่ช่วยชาติประหยัดการใช้พลังงานไฟฟ้าเท่านั้นนะคะ เพราะคุณยังได้ประหยัดค่าไฟฟ้าที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือนด้วยค่ะ
ปิดเครื่องปรับอากาศเมื่อไม่ใช้งาน
ปิดเครื่องปรับอากาศเมื่อไม่ใช้งาน
2. ปิดเครื่องปรับอากาศเมื่อไม่ใช้งาน
ถ้าไม่มีการใช้งานเครื่องปรับอากาศ ก็ให้ปิดเครื่องปรับอากาศทุกครั้งที่ไม่อยู่ในห้องเกิน 1 ชั่วโมงนะคะ หรือถ้าหากวันไหนที่อากาศไม่ได้ร้อนมากจนทนไม่ไหว ก็เปิดแค่พัดลมก็พอค่ะ เพราะจะช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้มาก ที่สำคัญทั้งเครื่องปรับอากาศ และพัดลม ควรเลือกซื้อเป็นแบบประหยัดไฟเบอร์ 5 กันนะคะ
ไม่ชาร์จโทรศัพท์มือถือทิ้งไว้
ไม่ชาร์จโทรศัพท์มือถือทิ้งไว้
3. ไม่ชาร์จโทรศัพท์มือถือทิ้งไว้
การชาร์จแบตเตอรี่มือถือไว้ทั้งคืน เป็นการดึงไฟเข้ามือถืออย่างต่อเนื่อง ทำให้กินไฟมาก และยังส่งผลให้โทรศัพท์มือถือทำงานหนักและร้อนเร็ว ดังนั้นเมื่อชาร์จแบตเตอรี่เต็มแล้ว ให้ถอดปลั๊กออกทันที เพื่อเป็นการถนอมตัวเครื่อง และช่วยประหยัดค่าไฟในแต่ละเดือนด้วยค่ะ
ใช้เตาไมโครเวฟในการทำอาหาร
ใช้เตาไมโครเวฟในการทำอาหาร
4. ใช้เตาไมโครเวฟในการทำอาหาร
การทำอาหารบางเมนูที่ต้องใช้เตาอบ แนะนำให้เปลี่ยนมาใช้เป็นเตาไมโครเวฟแบบประหยัดไฟเบอร์ 5 แทนค่ะ เพราะกินไฟน้อยกว่าการใช้เตาอบ และเตาไมโครเวฟเดี๋ยวนี้จะมีฟังก์ชั่นช่วยในการทำอาหารได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการ อบ ย่าง หรือต้ม เรียกได้ว่าเกือบครบฟังก์ชั่นของการใช้งานทำอาหารเลยค่ะ
ไม่เปิด ปิด ตู้เย็นบ่อยๆ
ไม่เปิด ปิด ตู้เย็นบ่อยๆ
5. ไม่เปิด ปิด ตู้เย็นบ่อยๆ
ในระหว่างวันหากไม่จำเป็นก็ไม่ควรเปิด ปิดตู้เย็นบ่อยๆ กันนะคะ หรือไม่ควรนำของร้อนจัดๆ เข้าแช่ในตู้เย็นทันที เพราะจะทำให้ตู้เย็นทำงานหนักขึ้น และกินไฟมากขึ้นด้วยค่ะ หากต้องการนำอาหารที่ยังร้อนอยู่เข้าตู้เย็น ควรรอให้อาหารที่จะเก็บแช่ในตู้เย็นอุ่นลงก่อน เพื่อเป็นการถนอมมอเตอร์ภายในของตู้เย็นให้มีอายุการใช้งานที่นานขึ้น และช่วยประหยัดค่าไฟด้วยค่ะ
เรื่องน่ารู้ : ประเทศไทยมีครัวเรือนรวมประมาณ 12 ล้านครัวเรือน หากแต่ละครอบครัวช่วยกันปิดไฟ 1 ดวง (หลอดไส้ 60 วัตต์) เป็นเวลา 1 วัน เราจะประหยัดไฟได้ 4 ล้าน กิโลวัตต์-ชั่วโมง/วัน=(60 วัตต์ x 6 ชม* x 12 ล้านครัวเรือน) ค่าผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า 1 หน่วย (กิโลวัตต์-ชั่วโมง) คือ 2.2 บาท (รวมค่าพลังงานที่ใช้ และการก่อสร้างโรงไฟฟ้า) การประหยัดไฟ 4 ล้านหน่วย/วัน จึงคิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 8.8 ล้านบาท/วัน หรือ 3,212 ล้านบาทต่อปี=(8.8 ล้านบาท x วัน) * ครอบครัวหนึ่งเปิดหลอดไส้ ประมาณ 6 ชั่วโมงต่อวัน
รายการอ้างอิง: 108 วิธีประหยัดพลังงาน – กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน
ขอบคุณบทความจากเว็บไซต์ theAsianparent.com เว็บไซต์ให้คำแนะนำด้านการเลี้ยงลูกอันดับ 1 ในประเทศไทย

ที่มา:http://www.ddproperty.com

8 ไอเดียแปลกจากของใช้ในบ้าน ที่คุณแม่หยิบมาใช้เลี้ยงลูกได้

จับตะกร้าลงน้ำ
Picture Reference: www.lifehack.org
วิธีจับกล่องไม่ให้น้ำพุ่ง
ลูกของคุณแม่เคยประสบกับปัญหาเวลาเจาะกล่องนมหรือน้ำผลไม้แล้วน้ำพุ่งออกมาทุกทีไหมคะ ทั้งๆ ที่ว่าจับเบาๆ แล้วเชียว ลองสอนลูกด้วยวิธีใช้มือทั้งสองข้างจับมุมข้างกล่องตามภาพดูช่วยได้นะ
วิธีจับกล่องไม่ให้น้ำพุ่ง
วิธีจับกล่องไม่ให้น้ำพุ่ง
Picture Reference: www.babyzone.com
สอนลูกใส่รองเท้าให้ถูกข้าง
วิธีง่ายๆ ที่คุณแม่สามารถสอนลูกใส่รองเท้าให้ถูกข้างได้ด้วยการเอาสติ๊กเกอร์มาตัดแบ่งครึ่งแล้วแปะในรองเท้าข้างซ้ายและขวา ตัวการ์ตูนจะทำให้เด็กเข้าใจและจดจำได้ง่ายขึ้น
สอนลูกใส่รองเท้าให้ถูกข้าง
สอนลูกใส่รองเท้าให้ถูกข้าง
Picture Reference: www.babyzone.com
ที่ไหนๆ ก็ผูกเปลได้
หากกลัวลูกน้อยไม่อยู่ในสายตา ลองใช้วิธีผูกเปลกับโต๊ะแบบนี้ แม้คุณแม่ทำงานอยู่ในห้องครัว ก็มองเห็นลูกได้
ที่ไหนๆ ก็ผูกเปลได้
ที่ไหนๆ ก็ผูกเปลได้
แปลงขวดโลชั่นให้เป็นที่รองน้ำก๊อกสุดเก๋
ขวดโลชั่นที่ไม่ใช้แล้ว นำมาตัดตามภาพ แล้วต่อเข้ากับก๊อกน้ำก็สามารถรองน้ำได้โดยไม่กระจายแล้ว
แปลงขวดโลชั่นให้เป็นที่รองน้ำก๊อกสุดเก๋
แปลงขวดโลชั่นให้เป็นที่รองน้ำก๊อกสุดเก๋
ทำสไลเดอร์ให้ลูกเล่นจากลังกระดาษ
ไอเดียนี้อาจจะเหมาะสำหรับเด็กโตขึ้นมาหน่อย แต่ถึงอย่างไรคุณพ่อคุณแม่ก็ต้องระวังความปลอดภัยเวลาลูกเล่นลงมาด้วยเหมือนกันนะคะ
ทำสไลเดอร์ให้ลูกเล่นจากลังกระดาษ
ทำสไลเดอร์ให้ลูกเล่นจากลังกระดาษ
Picture Reference: www.pinterest.com
สอนลูกจับดินสอให้อยู่มือ
ถ้าลูกจับดินสอเขียนหนังสือยากนัก ก็ใช้หนังยางรัดแบบนี้ ทำให้ดินสอไม่หลุดมือง่ายๆ
สอนลูกจับดินสอให้อยู่มือ
สอนลูกจับดินสอให้อยู่มือ
ชวนลูกทำงานบ้านด้วยการสร้างเกมให้ลูก
ชวนลูกทำงานบ้านแบบธรรมดาๆ ลูกอาจจะไม่ยอมช่วย คุณแม่ต้องมีลูกเล่น ลองทำเป็นเกมด้วยการตีตารางแล้วให้ลูกกวาดเศษขยะมารวมในช่องที่คุณแม่กำหนดให้ เรื่องแบบนี้ใครจะรู้ว่าเป็นเรื่องสนุกของลูกได้
ชวนลูกทำงานบ้านด้วยการสร้างเกมให้ลูก
ชวนลูกทำงานบ้านด้วยการสร้างเกมให้ลูก
Picture Reference: www.picasaweb.google.com
อ้างอิงข้อมูล: www.emlii.com
ขอบคุณบทความจากเว็บไซต์ theAsianparent.com เว็บไซต์ให้คำแนะนำด้านการเลี้ยงลูกอันดับ 1 ในประเทศไทย

ที่มา:http://www.ddproperty.com

หลากวิธีกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ภายในบ้าน

หลากวิธีกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ภายในบ้าน
หนึ่งในเรื่องราวสุดปวดหัวของพ่อบ้าน แม่บ้าน คงหนีไม่พ้นกลิ่นไม่พึงประสงค์ทั้งหลายภายในบ้านไม่ว่าจะเป็นกลิ่นจากการทำอาหาร กลิ่นจากขยะ กลิ่นอับในตู้เสื้อผ้า หรือกลิ่นรองเท้าเหม็น !!
ทีนี้มาดูกันว่าเราจะสามารถขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่างๆ ภายในบ้านได้อย่างไร ซึ่งเราได้รวบรวมวิธีที่ทั้งง่ายและใช้งานได้จริงมาให้กับคุณผู้อ่านทุกคน และที่สำคัญคือ “อย่าลืมทิ้งขยะทุกวันด้วยนะครับ”
  • กลิ่นอาหารในห้องครัว มีวิธีมากมายในการแก้ แต่เราขอนำเสนอวิธีง่ายๆ เพียง 2 วิธีคือ ใช้ผงกาแฟโปรยลงบนเตาให้เกิดควันเพียงเล็กน้อยแล้วปิดประตูไว้สัก 5 นาที และอีกวิธีคือ ต้มน้ำให้เดือดแล้วฝานมะนาวใส่ลงไป สักประมาณ 30 นาทีเพื่อเพิ่มความสดชื่นให้กับบ้านของคุณ
  • กลิ่นฟองน้ำหรือผ้าเช็ดจาน นำน้ำส้มสายชูผสมกับน้ำเปล่าอัตราส่วนครึ่งๆ แล้วนำไปแช่ฟองน้ำหรือผ้าทิ้งไว้ข้ามคืน
  • กลิ่นกระเทียม ปลา และหัวหอม ใช้มะนาวถูอุปกรณ์ทุกชิ้นที่มีกลิ่น ทิ้งไว้สักพักแล้วล้างให้สะอาด
  • กลิ่นอาหารในไมโครเวฟ นำมะนาวมาหั่นเป็นชิ้นบางๆ ลงในน้ำเดือดแล้ววางไว้ในไมโครเวฟ รอไอน้ำระเหยออกมา จากนั้นจึงเช็ดให้สะอาด
  • กลิ่นตู้เย็น แก้ง่ายๆ ด้วยการวางถ่านหุงข้าวไว้ในตู้ ถ้าจะให้ดีก็เพิ่มผงกาแฟเข้าไปด้วย
  • กลิ่นในห้องน้ำ นำมะกรูดมาหั่นเป็นชิ้นและวางไว้ในห้องน้ำ เพียงแค่นี้ก็จะสามารถช่วยดับกลิ่นได้เป็นอย่างดี
  • กลิ่นอับในตู้เสื้อผ้า แก้ได้ด้วยการนำส้มมาปอกเปลือกแล้วนำกานพลูมาเสียบให้ทั่วทั้งผล จากนั้นก็นำไปวางไว้ในตู้สักหนึ่งสัปดาห์ จะรู้สึกได้เลยว่ากลิ่นเห็นหายไปและมีกลิ่นหอมจากธรรมชาติเข้ามาแทน
  • กลิ่นเหม็นจากรองเท้า ขอนำเสนอวิธีแก้ง่ายๆ 2 วิธีคือ นำหนังสือพิมพ์ไปใส่ไว้ในรองเท้า และนำผงแป้งไปโรยไว้ในรองเท้า
ที่มา:http://www.ddproperty.com

วิธีป้องกันและกำจัดราในห้องน้ำ

วิธีป้องกันและกำจัดราในห้องน้ำ
เคยมั้ยกับอาการหงุดหงิดเวลาเห็นสิ่งไม่พึงประสงค์ในห้องน้ำอย่าง “รา”
เชื่อว่าหลายคนคงไม่ชอบใจอย่างแน่นอน วันนี้เราจึงรวบรวมวิธีป้องกันและเทคนิคการกำจัดราในห้องน้ำมาให้ครับ
เริ่มที่การป้องกันกันก่อนเลย ซึ่งอันดับแรกนั้นเราต้องรู้กันก่อนว่าที่ “รา” ขึ้นในห้องน้ำเรานั้นมาจากสาเหตุหลักคือ “ความชื้น” เพราะฉะนั้นวิธีที่ง่ายที่สุดที่จะทำให้ห้องน้ำของเราปราศจาก “รา” คือต้องทำให้ห้องน้ำไม่ชื้นนั่นเอง เพราะศัตรูตัวฉกาจของเชื้อรา คือ ความแห้งและแสงแดด ซึ่งถ้าห้องน้ำของเรามีหน้าต่างก็ให้เปิดไว้ตลอดเพื่อช่วยระบายความชื้น แต่ถ้าห้องน้ำเราไม่มีหน้าต่างก็เปิดพัดลมดูดอากาศแทน หรือถ้าไม่มีทั้งสองอย่างเลยก็ต้องเปิดประตูช่วยระบายความชื้นแล้วล่ะ ที่สำคัญก่อนออกจากห้องน้ำถ้าเช็ดบริเวณที่เปียกให้แห้งด้วยก็จะช่วยป้องกันราได้อย่างมาก
แต่ถ้ารามันมาแล้วก็ไม่ต้องกังวลใจไปนะครับ เพราะเพียงแค่ทำตามวิธีดังต่อไปนี้ เชื้อราก็จะไม่มาให้กวนใจอีกต่อไป
วิธีป้องกันและกำจัดราในห้องน้ำ (1)
ภาพ via 1.bp.blogspot.com
  1. สำหรับผนังและพื้น ใช้น้ำยาสเปรย์ขัดพื้นและผนังฉีดใส่บริเวณที่มีรา จากนั้นทิ้งไว้ประมาณ 5 นาทีแล้วขัดออก
  1. สำหรับยาแนวกระเบื้องบนพื้นและผนัง ใช้น้ำส้มสายชูชนิดเข้มข้นราดใส่บริเวณที่มีรา แล้วค่อยๆ ขัดไปเรื่อยๆ เพียงเท่านี้ห้องน้ำของคุณก็จะกลับมาขาวเหมือนเดิมแล้ว
เห็นมั้ยล่ะครับ ด้วยวิธีง่ายๆ เพียงเท่านี้ห้องน้ำของคุณก็จะปราศจากเชื้อรามากวนใจอีกต่อไป ยิ่งตอนนี้กำลังจะเข้าหน้าฝนแล้วด้วย ถ้าป้องกันได้ก็รีบป้องกัน หรือถ้าป้องกันไม่ได้ก็รีบกำจัดมันไปนะครับ ไม่อย่างนั้นห้องน้ำของคุณคงไม่น่าใช้เป็นแน่
ที่มา:http://www.ddproperty.com

พาชมรีสอร์ทบ้านดินหัวหิน

พาชมรีสอร์ทบ้านดินหัวหิน
รีสอร์ทแห่งนี้ตั้งอยู่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สร้างด้วยสไตล์ธรรมชาติ สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการสร้างบ้านสไตล์ที่พักต่างอากาศได้ หนึ่งในที่พักรูปแบบ
ตัวบ้านพักก่อสร้างด้วยผนังด้วยดิน นอกจากจะให้ความรู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติแล้วผนังดินยังมีคุณสมบัติดูดความชื้นได้เป็นอย่างดีช่วยคลายร้อนได้ระดับหนึ่งด้วย ซึ่งฟอนิเจอร์ที่ใช้ก็ทำจากวัสดุไม้เพื่อไม่ให้หลุดบรรยากาศออกไป บางหลังก็เลือกใช้ไม้ไผ่จักสานก็ให้อารมณ์ที่แตกต่างกันไป
UPHO.16872452.V800UPHO.16872455.V800UPHO.16872458.V800UPHO.16872461.V800UPHO.16872464.V800UPHO.16872467.V800UPHO.16872497.V800UPHO.16872500.V800
ที่มา:http://www.ddproperty.com